ตอนที่ 10 เราอาจลืมไป
มาตราวัดความรักไม่ได้วัดกันตรงที่ ใครรักก่อน หรือ รักที่หลัง คนที่รักมานานอาจไม่ได้รักมากกว่า และคนที่รักทีหลังอาจไม่ได้รักน้อยกว่า ฉันได้เเต่นั่งกลุ้มใจ เก็บเอาความรู้สึกดีที่ดี ๆ นั้นไว้ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ การทุ่มเทมอบใจให้ใครสักคนไปแล้วมันยากที่จะต้องเอากลับมาเป็นเหมือนเดิม ถ้าหากความทรงจำของฉันเปรียบเสมือนกล่องหนึ่งใบ ก็ใช่ว่าจะเอาสิ่งของทุกอย่างใส่ลงในกล่องทั้งหมดแม้ว่ากล่องความทรงจำของฉันจะมีขนาดใหญ่พอที่จะเก็บเรื่องราวได้สามรพัด แต่กล่องความทรงจำ ก็คือกล่องที่วางไว้ในหัวสมอง เราจึงไม่สาารถโยนกล่องใบนี้ไปไว้ในหัวสมองของใครได้ >_<
ภายในห้องมืดที่ไร้เเสงสว่าง มีเพียงเสียงหายใบที่เเผ่าเบา และเสียงสะอื่นที่ยังดังก้องอยู่ในใจ ใบหน้าที่เต็มไปคาบน้ำตา ของฉัน ฉันได้เเต่มองหน้าต่างที่เรียงรายอยู่ข้างซ้ายมือของฉัน ล้วนเเล้วเเต่ปิดสนิทเงียบไร้ซึ่งสำเนี้ยงใดๆ จะมีก็เเต่เพียงเสียงสะอื่นไห้ของฉัน ที่ยังดังก้องอยู่ในใจ จู๋ ๆ ก็มีก็มีเสียง เสียงขึ้งดังก้องกังวาลขึ้นมา
"คนที่ควรรัก อาจไม่ใช่คนที่เธอรัก อาจไม่ใช่คนที่รักเธอ อาจไม่ใช่คนที่รักกันมาก่อน อาจไม่ใช่คนที่กำลังรักอยู่ อาจไม่ใช่คนที่คิดจะรัก แต่คนที่ควรรัก อาจเป็นคนที่เธอยังไม่เคยรักเลยก็ได้"
"เสียงใครอ่ะ"
ฉันลุกขึ้นแล้วกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้องฉันลุกขึ้นพลางเอามือปาดน้ำตาที่เเก้ม เสียงนั้นยังดังไม่หยุด ฉันพยายยามที่จะถามผู้ที่เป็นเจ้าของเสียงนั้น ยิ่งฉันตะโกนถาม เสียงนั้นยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ฉันพยายามมองไปรอบๆ เดินวนอยู่ที่เดิมเป็นสิบ ๆ รอบ มีเงาดำร่างใหญ่พุงตรงมาที่ฉัน ฉันกรีดร้องจนสุดเเรงล้มลงไปที่พื้น เเต่เสียงนั้นยังคงตามติดหูไม่หายไปไหนเลย นั่งได้เเต่นอนเเน่นิ่ง พลางเห็นเงาดำยืนอยู่ตรงหน้าของฉัน ฉันแล้วเสียงนั้นก็เงียบงายไป
พรึบ!!!!
ทั้งร่างของฉันสะดุ้งแรงเหมือนถูกกระชากตกจากที่สูง ดวงตาลืมพรึบเลิกลั่กกวาดมองโดยรอบสีหน้าตื่นจึงพบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียง เหงื่อผุดซึมทั้งดวงหน้า ฉันลุกขึ้นพิงหัวเตียง มือทาบ อกอย่างอกสั่นขวัญแขวน หัวใจเต้นกระหน่ำ เหมือนจะหลุดกระเด็นออกมานอกอก ลำคอแห้งผาก ขณะสายตาหวาดระแวงกวาดมองโดยรอบเพื่อให้แน่ใจ
"เมื่อกี้...ฝันใช่ไหม"
เสียงเครือแผ่วเบาหลุดจากลำคอ มือยังทาบกับหน้าอก ฉันกลืนน้ำลายเหนียวฝืดลงคอยากเย็น ยังไม่หายตกใจเท่าไหร่ด้วยความน่ากลัวในฝันยังตามมาหลอกหลอนในยามตื่น รู้สึกถึงความชื้นของเหงื่อที่ส่งผ่านจากผิวหนังสู่เสื้อผ้า มื้อของฉันคว้าหาเจ้าโดโต้ หาเท่าไรก็ไม่เจอ พยามยามตามหาฉันร้องเรียกโดโต้จนหมดเสียง ไปตาม ๆ กัน
"ฝันนั้น ต้องเป็นโดโต้เเน่ๆ นายอยู่ไหนหรอ โดโต้ ฉันเป็นห่วงห่วยมากเลยนะ ฉันขอโทษที่ฉันไม่สนใจนาย และดูแลนายไม่ดี โดโต้ฉันขอโทษ"
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ฉันออกเดินทางตามหาโดโต้ทุกที่ที่ฉันเคยไป แม้กระทั้งทริปที่ฉันไปเที่ยวกับครอบครัว เเต่ไม่เจอโดโต้เลย ฉันร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลออกมาอยู่แล้ว หัวใจของฉันเต้นร็วขึ้นเรื่อยๆ
"โดโต้นานอยู่ไหน ฉันอยากเจอนายจริงๆนะ นายคือเพื่อนที่ดีมี่สุดของฉัน"
ฉันพูดปนเสียงสะอื้น น้ำตาหนองเต็มสองตา พอตะวันลับฟ้าทุกอย่างดูเงียบสงบท้องฟ้ายังขุนมัวยิ่งมองยิ่งรู้สึกเศร้าไปอีก ฉันเดินเข้าบ้านอย่างเหนื่อยล้า เเก้มทั้งสองเปื่อนคาบน้ำตา เนื้อตัวหมอมแหมม ฉันทิ้งตัวลงนอนที่โซฟาหน้าทีวีก่อนจะถึง้องนอนของฉัน ฉันเหลือบไปเห็นโดโต้นอนเเน่นิ่งอยู่ข้างๆโซฟา ทั้งตัวของโดโต้เต็มไปด้วยฝุ่น หยากไย่เต็มไปหมด ฉันรู้สึกดีใจจนไม่ไม่ถูกน้ำตาของฉันไหลลงมาอาบเเก้มทั้งสองของ ฉันดึงโดโต้มากอดเเบบสุดกำลัง ฉันกอดโดโต้เเน้นไปทั้งตัว
"นายอยาหายไปไหนอีกนะ ฉันเป็นนห่วงนายมากเลยรู้ไหม"
ฉันร้องไห้พลางกอดโดโต้ตุ๊กตาตัวโปรดของฉันด้วยความดีใจ โดโต้ทำให้ฉันรู้ว่าเราไม่ควรมองข้ามความรักของคนใกล้ตัว มันค่อยดูแลฉันมาตลอด มันค่อยรับฟังฉันทุกเรื่อง มันทำให้ฉันเห็นว่ามาตราวัดความรักไม่ได้วัดกันตรงที่ ใครรักก่อน หรือ รักที่หลัง คนที่รักมานานอาจไม่ได้รักมากกว่า และคนที่รักทีหลังอาจไม่ได้รักน้อยกว่า เพราะความรักอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาเพียงอย่างเดียว ขอบคุณที่นายไม่ทิ้งฉันในช่วงเวลาที่ฉันทุกข์ใจนะ ^^"
แม่นางเหี่ยน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น